·พิซซ่าเลขาธิการ Mun Mun Muno 9 คนในคณะกรรมการบริหาร หนึ่งในสมาชิกของสมาชิกในสภาครั้งสุดท้าย [ยี่สิบสอง]

·พิซซ่าเลขาธิการ Mun Mun Muno 9 คนในคณะกรรมการบริหาร หนึ่งในสมาชิกของสมาชิกในสภาครั้งสุดท้าย [ยี่สิบสอง]
ทางการเมือง
โสเภณี: กษัตริย์ไทยนายกรัฐมนตรีไทย
กษัตริย์ปัจจุบัน: Maha Wow Collection Lauba เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 1952 มีอายุ 64 ปีเป็นลูกชายคนเดียวหลังจากพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยและกษัตริย์กวีนิพนธ์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ในกรุงเทพมหานครประเทศไทยวัง Bu Xiqi La Lung ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมในพิธีทำการวางตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศไทยกษัตริย์พระราม 16 [5]
Premier Premier: Bashen Zhanoi เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2497 ในเดือนพฤษภาคม 2014 ทหารและที่ปรึกษาของประเทศไทยผู้บัญชาการกองทัพ Pupri ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี [28] เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2014 ประเทศไทย King Pin Adad (สาย) ลงนามใน Yuling ซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการว่า "การรักษาคณะกรรมการสั่งสันติภาพแห่งชาติ" ประธานผู้บัญชาการกองทัพบกในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ 29
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 บายปายได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทยเป็นระยะเวลา 4 ปี [29]

https://www.thaishop.cc

https://Google.com

เสียงบรรณาธิการเศรษฐกิจ
ทบทวน
ประเทศไทยเป็นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่. มันจะถือเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใหม่. ไทยเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. สิงคโปร์, บรูไนและมาเลเซีย ณ วันที่ 29 มีนาคม 2556 รวมทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมดอยู่ที่ 171.2 พันล้านดอลลาร์จำนวนเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสิงคโปร์ ปริมาณการค้าต่างประเทศของประเทศยังอยู่ในอันดับที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สองในสิงคโปร์ อุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมบริการเป็นสองอุตสาหกรรมที่สำคัญในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศและบัญชีเดิมเป็นเวลา 39.2% ของทั้งหมด บัญชีการเกษตร 8.4% ของ GDP ซึ่งต่ำกว่าการค้า (13.4%) และเทคโนโลยีโลจิสติกและอุตสาหกรรมการสื่อสาร (9.8%), การก่อสร้างและเหมืองแร่บัญชีสำหรับ 4.3% ของ GDP บริการอื่น ๆ ได้แก่ การเงิน, การศึกษา, โรงแรมและร้านอาหารและอื่น ๆ อุตสาหกรรมบัญชีเป็นเวลา 24.9% เทเลคอมและอุตสาหกรรมการค้าใหม่มุ่งเน้นการขยายตัวของอุตสาหกรรมและความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
ตามตัวชี้วัดทางสังคมและการพัฒนาประเทศไทยเป็นเรื่องราวของการพัฒนาที่สำคัญ แม้ว่ารายได้จากชาติต่อหัวเพียง $ 5210 เพียงอันดับที่ 103 ในดัชนีการพัฒนามนุษย์อยู่ในอันดับ ตามสายความยากจนใหม่ของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมของไทยสัดส่วนของประชากรภายใต้สายความยากจนแห่งชาติได้ลดลงจาก 65.26% ในปี 1988 เป็น 13.15% ในปี 2554 อัตราการว่างงานในไตรมาสแรกของปี 2556 คือ 0.7% ซึ่งเป็นประเทศที่สี่ในอัตราการว่างงานของโลกที่สองเท่านั้นที่กัมพูชา, โมนาโกและกาตาร์ อัตราเงินเฟ้อหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 คือ 2.70% และอัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่ากับ 2.50%
ประเทศไทยใช้นโยบายเศรษฐกิจอิสระเป็นของเศรษฐกิจภายนอกเมื่อเทียบกับตลาดภายนอกเช่นความงามวันและยุโรป ในปี 1980 การผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วและเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 1996 ประเทศไทยได้รับการจดทะเบียนเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางหลังจากปี 1997 วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในปี 2542 เงินกู้ 17.2 พันล้านดอลลาร์ที่จัดทำโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินในเดือนกรกฎาคม 2546
ในปี 1963 แผนห้าปีสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในปี 2560 แผนห้าปีที่สิบสองเริ่มขึ้นแล้ว
ข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจในปี 2018 จะเป็นดังนี้:
จีดีพี : 490 $ พันล้าน อัตราการเจริญเติบโตของ GDP: 4.1% ชื่อเงิน :. อัตราแลกเปลี่ยน (เปิดตลอดปีราคาเฉลี่ย): 1 ดอลลาร์สหรัฐ≈31.6 อัตราเงินเฟ้อ: 0.66% อัตราการว่างงาน: 1.3% [1] ในปี 2020 ข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจะเป็นดังนี้: อัตราการเจริญเติบโตของ GDP: -6.1% ชื่อเงิน :. อัตราแลกเปลี่ยน (เปิดตลอดปีราคาเฉลี่ย): 1 ดอลลาร์สหรัฐ≈ 30.7 อัตราเงินเฟ้อ: -0.85% อัตราการว่างงาน: 1.64% [1] การเงิน ณ สิ้นปี 2017, แลกเปลี่ยนเงินตราไทยขอสงวน 20240000000 $, ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นประจำทุกปีประมาณ 8% ในปี 2017 มีรายได้ทางการเงิน 2.35 ล้านล้านบาทและส่วนเกิน 7600000000 บาท [ยี่สิบสี่] การค้าต่างประเทศ การค้าต่างประเทศเป็นบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอะไหล่, แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, พลาสติกหลัก, สารเคมี, ปิโตรเคมี, เครื่องประดับ, เสื้อผ้า, รองเท้า, ยางเฟอร์นิเจอร์, การประมวลผลผลิตภัณฑ์ทะเลและกระป๋อง, ข้าว, Cassa รอ . สินค้านำเข้าหลักคือผลิตภัณฑ์เครื่องกลและไฟฟ้าและชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องจักรอุตสาหกรรมชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนรถยนต์, วัสดุก่อสร้าง, น้ำมันดิบเครื่องจักรกระดาษเหล็กแผงวงจรแบบบูรณาการและผลิตภัณฑ์เคมี, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอะไหล่ที่ใช้ในครัวเรือน เครื่องประดับเพชรพลอยทอง, ผลิตภัณฑ์โลหะ, อาหารผักและผลไม้ ในปี 2017 ประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 459.5 $ พันล้านเพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบปีต่อปี ในหมู่พวกเขาส่งออกเป็น 236,700,000,000 ดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับปีการนำเข้า 222.8 $ พันล้านเพิ่มขึ้นปีต่อปี 14.7% ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมส่งออกหลักจุดการเจริญเติบโต [ยี่สิบสี่] ลงทุน การลงทุนต่างชาติ การลงทุนส่วนใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา, อาเซียน, จีนและไต้หวัน ในปี 2017 การลงทุนใหม่ของประเทศไทยเป็น $ 110 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ 96.3% บริษัท การลงทุนในประเทศจีนส่วนใหญ่: Zhengda กลุ่ม Pangu ธนาคาร ฯลฯ [ยี่สิบสี่] การลงทุนต่างชาติ ในปี 1961 นโยบายเศรษฐกิจเปิดตลาดเริ่มดำเนินการชุดของนโยบายพิเศษเพื่อส่งเสริมให้ บริษัท ต่างประเทศที่จะลงทุนในประเทศไทย ในช่วงสูงสุดของการลงทุนจากต่างประเทศในประเทศไทยในปี 1987-1990 ในปี 1997 เขาได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินในเอเชียและการลงทุนต่างประเทศได้ลดลงอย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยเพิ่มการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความเข้มแข็งในการปรับปรุงกฎหมายและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเพื่อดึงดูดเงินทุนต่างประเทศ ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์การลงทุนต่างประเทศ 2012 ไทย 13212000000 $ ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของข้าวและยางธรรมชาติในโลก เกษตรไทยอุตสาหกรรมเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมแบบดั้งเดิม. พื้นที่กระป๋องแห่งชาติเป็นประมาณ 140 ล้านบาท (1 Lai = 1600 ตารางเมตร) คิดเป็น 41% ของพื้นที่ที่ดิน สินค้าเกษตรเป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของรายได้หลักของแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไทย พืชหลัก ได้แก่ ข้าวข้าวโพดมันสำปะหลังยางพาราอ้อย, ถั่วเขียว, ป่าน, ยาสูบ, เมล็ดกาแฟ, ผ้าฝ้าย, น้ำมันสีน้ำตาลมะพร้าว ฯลฯ [1] ทะเลไทยใหญ่ไทยเบย์และทะเลอันดามันมีเอกลักษณ์ธรรมชาติทางทะเลประมง กรุงเทพฯ Songka ภูเก็ตและสถานที่อื่น ๆ เป็นศูนย์กลางการประมงที่สำคัญและผลิตภัณฑ์ประมง ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ปลาหลักจากตลาดโลกและยังเป็นที่สามที่ใหญ่ที่สุดประมงทะเลในเอเชียรองจากญี่ปุ่นและจีน โครงสร้างทางเศรษฐกิจไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ เกษตรกรรม